แนวชายแดนระหว่างอัฟกานิสถานกับปากีสถาน บริเวณทอร์คัม
แนวชายแดนระหว่างอัฟกานิสถานกับปากีสถาน บริเวณทอร์คัม | ถ่ายโดย: Unsplash / NEOM (Unsplash License)
ความตึงเครียดชายแดนอัฟกานิสถาน-ปากีสถานบานปลาย ยิงปะทะดุเดือดพร้อมกล่าวอ้างสังหารทหารศัตรูจำนวนมาก
เนื้อหาข่าว
ความตึงเครียดระหว่างอัฟกานิสถานภายใต้การปกครองของกลุ่มตอลิบานกับปากีสถานได้บานปลายขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2025 หลังทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนการโจมตีทางอากาศและการยิงปะทะกันบริเวณชายแดนที่มีความยาวกว่า 2,600 กิโลเมตร ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากและเกิดการปิดด่านการค้าชายแดนที่สำคัญ
ในวันที่ 12 ตุลาคม รัฐบาลตอลิบานอัฟกานิสถานออกแถลงการณ์ว่าได้ดำเนินการโจมตีหลายจุดยึดของปากีสถานริมแนวชายแดนในช่วงกลางคืน โดยอ้างว่า “สามารถสังหารทหารปากีสถาน 58 นาย และทำให้บาดเจ็บอีก 30 นาย รวมถึงยึดฐานทัพปากีสถาน 25 แห่งได้” โฆษกรัฐบาลตอลิบาน ซาบีฮุลลาห์ มูจาฮิด กล่าวว่า การโจมตีดังกล่าวเป็นการตอบโต้ “การละเมิดอธิปไตยและน่านฟ้าอัฟกานิสถานอย่างต่อเนื่องโดยปากีสถาน”
ในขณะเดียวกัน กองทัพปากีสถานก็ออกแถลงการณ์โต้แย้ง โดยยืนยันว่าการโจมตีของตนเป็นการตอบโต้กลุ่มติดอาวุธที่หลบซ่อนตัวในดินแดนอัฟกานิสถาน โดยอ้างว่า “สามารถสังหารสมาชิกตอลิบานกว่า 200 นาย” แต่ยอมรับว่าทหารปากีสถานเสียชีวิต 23 นายในการปะทะครั้งนี้ ปากีสถานยังตำหนิรัฐบาลอัฟกานิสถานว่า “ปล่อยให้กลุ่ม Tehreek-i-Taliban Pakistan (TTP) ใช้ดินแดนอัฟกานิสถานเป็นฐานโจมตีปากีสถาน”
สาเหตุและบริบทเบื้องหลัง
ความขัดแย้งครั้งนี้มีต้นเหตุมาจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม ซึ่งปากีสถานดำเนินการโจมตีทางอากาศหลายจุดในอัฟกานิสถาน รวมถึงเมืองคาบูล (เมืองหลวง), โคสต์, จาลาลาบัด และปักติกา โดยอ้างว่า “เป้าหมายคือที่ซ่อนของผู้นำกลุ่ม TTP” ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธที่มีฐานอยู่ในอัฟกานิสถานและดำเนินการโจมตีภายในปากีสถานบ่อยครั้ง
รัฐบาลตอลิบานตอบโต้อย่างรุนแรงและกล่าวหาว่าเป็น “การโจมตีประชาชนพลเรือนและตลาดในพื้นที่” พร้อมประกาศว่าจะ “ปกป้องดินแดนของตนอย่างเด็ดขาด” ซึ่งนำไปสู่การโจมตีตอบโต้ในช่วงกลางคืนวันที่ 11-12 ตุลาคม
ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเสื่อมทรามลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2021 หลังจากตอลิบานกลับมามีอำนาจในอัฟกานิสถาน ปากีสถานกล่าวหาว่าตอลิบานปล่อยให้กลุ่ม TTP (กลุ่มติดอาวุธที่มีความสัมพันธ์กับตอลิบานอัฟกานิสถาน) ใช้พื้นที่เป็นฐานปฏิบัติการโจมตีปากีสถาน โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2025 มีผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงในปากีสถานกว่า 2,414 ราย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าปี 2025 อาจเป็น “หนึ่งในปีที่มีความรุนแรงสูงสุดในประวัติศาสตร์ของปากีสถาน”
ผลกระทบต่อการค้าและความเป็นอยู่
เหตุการณ์ความรุนแรงทำให้ด่านชายแดนทอร์คัม (Torkham) ซึ่งเป็นหนึ่งในสองช่องทางการค้าหลักระหว่างสองประเทศถูกปิด ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี รวมถึงการเดินทางของประชาชนและการส่งสินค้าเข้า-ออก
ประเทศเพื่อนบ้านและชุมชนนานาชาติเริ่มแสดงความกังวล โดยอิหร่าน กาตาร์ และซาอุดีอาระเบียได้เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย “ยับยั้งการใช้กำลังและแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาทางการทูต” ขณะที่สหประชาชาติออกแถลงการณ์เตือนว่า “การปะทะอาจบานปลายเป็นความขัดแย้งที่ใหญ่ขึ้นได้”
บทวิเคราะห์เพิ่มเติม
ความขัดแย้งครั้งนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างอัฟกานิสถานกับปากีสถาน ซึ่งมีประวัติศาสตร์ความขัดแย้งมายาวนาน ทั้งเรื่องเส้นแบ่งเขตแดน “Durand Line” ที่ถูกมองว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายโดยฝ่ายอัฟกานิสถาน และการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธข้ามชายแดนของทั้งสองฝ่าย
นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงระบุว่า “ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบ เพราะทั้งคู่กำลังประสบปัญหาภายในประเทศอยู่” โดยปากีสถานกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจและความไม่มั่นคงทางการเมือง ขณะที่รัฐบาลตอลิบานยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการจากนานาชาติและมีปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีกลไกการเจรจาที่เป็นรูปธรรม การปะทะระดับเล็กอาจลุกลามและกระทบต่อเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียใต้ โดยเฉพาะเส้นทางการค้าและความมั่นคงของประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่มีจำนวนหลายล้านคน ซึ่งจะทำให้วิกฤตผู้ลี้ภัยและความยากจนในภูมิภาคทวีความรุนแรงขึ้นอีก
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง