ภาพจุลทรรศน์ของไวรัส
ภาพจุลทรรศน์ของไวรัส | ถ่ายโดย: Unsplash / CDC (Unsplash License)
เซเนกัลเผชิญการระบาดไข้หุบเขาริฟต์ครั้งใหญ่ที่สุด ดับแล้ว 17 ศพ ติดเชื้อกว่า 119 ราย
เนื้อหาข่าว
สาธารณรัฐเซเนกัลในแอฟริกาตะวันตกกำลังเผชิญกับการระบาดของโรค ไข้หุบเขาริฟต์ (Rift Valley Fever - RVF) ที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 17 คน และผู้ติดเชื้อยืนยันมากกว่า 119 ราย นับตั้งแต่การระบาดเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนกันยายน 2025
กระทรวงสาธารณสุขของเซเนกัลประกาศการระบาดเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 หลังจากตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในภาคเหนือของประเทศ
เกี่ยวกับไข้หุบเขาริฟต์
ลักษณะของโรค
ไข้หุบเขาริฟต์เป็นโรคไวรัสที่ ส่งผลกระทบต่อสัตว์เป็นหลัก โดยเฉพาะปศุสัตว์ เช่น วัว แกะ แพะ อูฐ และควาย แต่สามารถติดต่อไปยังมนุษย์ได้
การแพร่กระจาย
มนุษย์ติดเชื้อได้ผ่าน:
- ยุงกัด: ยุงเป็นพาหะหลักในการแพร่เชื้อ โดยเฉพาะในช่วงฝนตกและน้ำท่วม
- การสัมผัสสัตว์ที่ติดเชื้อ: การสัมผัสเลือด น้ำเหลือง หรือเนื้อเยื่อของสัตว์ที่ติดเชื้อ
- การบริโภคนมดิบ: จากสัตว์ที่ติดเชื้อ (แม้จะหายากแต่เป็นไปได้)
อาการ
อาการในมนุษย์รวมถึง:
- ไข้สูง
- ปวดศีรษะ
- ปวดกล้ามเนื้อและข้อ
- อาเจียน
- ในกรณีรุนแรง: เลือดออกในอวัยวะ ตับอักเสบ ตาบอด หรือเสียชีวิต
อัตราการเสียชีวิตในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงสูงถึง 10-20%
พื้นที่ได้รับผลกระทบ
การระบาดครั้งนี้มีความรุนแรงในภาคเหนือของเซเนกัล ซึ่งเป็นแหล่งปศุสัตว์สำคัญ โดยเฉพาะใน:
- แซงต์-หลุยส์ (Saint-Louis)
- มาทัม (Matam)
- ลูการ (Louga)
ทั้งสามภูมิภาคนี้เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหา ฝนตกหนักและน้ำท่วมตามฤดูกาล ซึ่งเอื้อต่อการแพร่พันธุ์ของยุงพาหะนำโรค
ความรุนแรงของการระบาด
ครั้งแรกที่มีผู้ป่วยมากขนาดนี้
ดร. โบลี ดิออพ (Dr. Boly Diop) หัวหน้าหน่วยเฝ้าระวังไข้หุบเขาริฟต์ของกระทรวงสาธารณสุขเซเนกัล กล่าวว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่เซเนกัลมีผู้ได้รับผลกระทบจำนวนมากขนาดนี้”
ในอดีตเซเนกัลเคยมีการระบาดของไข้หุบเขาริฟต์ แต่ขนาดเล็กกว่ามาก โดยมีรายงานการระบาดเล็กๆ ในปี 2020 และ 2022
สายพันธุ์ไวรัส
สถาบันปาสเตอร์ แห่งดาการ (Institut Pasteur de Dakar) ยืนยันว่า การระบาดครั้งนี้เกิดจากไวรัส สายพันธุ์ H (Lineage H) ซึ่งเคยพบในการระบาดของเซเนกัลในปี 2020 และ 2022 และในมอริเตเนียในปี 2020 เช่นกัน
มาตรการรับมือของรัฐบาล
กระทรวงสาธารณสุขของเซเนกัล ร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้เร่งดำเนินการดังนี้:
1. แคมเปญฉีดวัคซีนปศุสัตว์
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้กับปศุสัตว์ในพื้นที่เสี่ยง
- เพื่อลดการติดเชื้อในสัตว์และป้องกันการแพร่กระจายสู่มนุษย์
2. การควบคุมยุง
- พ่นยุงในพื้นที่ระบาด
- กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
- แจกมุ้งกันยุงให้ประชาชน
3. การให้ความรู้ประชาชน
- เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคและวิธีป้องกัน
- แนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ที่ป่วย
- ส่งเสริมให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเมื่อทำงานกับสัตว์
4. การเฝ้าระวังและรักษา
- ตั้งศูนย์เฝ้าระวังโรคในพื้นที่เสี่ยง
- เตรียมเตียงและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วย
ปัจจัยเสี่ยงในการระบาด
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้:
- ฝนตกหนักและน้ำท่วมบ่อยขึ้น
- สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การแพร่พันธุ์ของยุง
- การระบาดของโรคติดต่อจากยุงเพิ่มขึ้น
พื้นที่ปศุสัตว์หนาแน่น
ภาคเหนือของเซเนกัลเป็นแหล่งเลี้ยงปศุสัตว์ที่สำคัญ การที่สัตว์อยู่รวมกันหนาแน่นทำให้โรคแพร่กระจายได้รวดเร็ว
ความยากจนและการเข้าถึงบริการสาธารณสุข
ประชากรในภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นชาวชนบทที่ยากจน การเข้าถึงบริการทางการแพทย์มีจำกัด ทำให้การควบคุมโรคเป็นไปได้ยาก
บทวิเคราะห์เพิ่มเติม
การระบาดของไข้หุบเขาริฟต์ในเซเนกัลครั้งนี้เป็นการเตือนใจถึงความเสี่ยงจากโรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำในแอฟริกา ซึ่งมักเกิดจากปัจจัยหลายประการที่สัมพันธ์กัน:
1. ความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพคน สัตว์ และสิ่งแวดล้อม
ไข้หุบเขาริฟต์เป็นตัวอย่างของโรคที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม (One Health concept) การควบคุมโรคจำเป็นต้องมีแนวทางที่ครอบคลุมทั้งสามด้าน
2. ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้พื้นที่ที่เคยปลอดโรคกลายเป็นพื้นที่เสี่ยง และทำให้การระบาดรุนแรงขึ้น นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าโรคติดต่อจากยุงจะแพร่กระจายไปยังพื้นที่ใหม่ๆ มากขึ้นในอนาคต
3. ความท้าทายในการควบคุมโรคในแอฟริกา
ประเทศในแอฟริกาหลายประเทศเผชิญกับข้อจำกัด:
- ระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอ
- งบประมาณจำกัด
- ขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์
- โครงสร้างพื้นฐานไม่เพียงพอ
4. ความสำคัญของการเฝ้าระวังและการตอบสนองเร็ว
การประกาศการระบาดอย่างรวดเร็วของเซเนกัลและการร่วมมือกับองค์การระหว่างประเทศเป็นตัวอย่างที่ดีของการจัดการวิกฤติสาธารณสุข การตอบสนองที่รวดเร็วช่วยลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้
5. บทเรียนสำหรับโลก
โรคระบาดในแอฟริกาไม่ใช่เรื่องของแอฟริกาเท่านั้น ในยุคโลกาภิวัตน์ โรคสามารถแพร่กระจายข้ามทวีปได้รวดเร็ว ชุมชนโลกจึงต้องร่วมมือกันในการเฝ้าระวังและควบคุมโรคระบาดใหม่ๆ
สำหรับเซเนกัล ความท้าทายในอนาคตคือการสร้างระบบเฝ้าระวังที่แข็งแกร่ง ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางสาธารณสุข และเตรียมพร้อมรับมือกับการระบาดในอนาคต ซึ่งอาจรุนแรงขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง